ทำความรู้จัก Social Security Number (SSN)

หากคุณกำลังจะเดินทางไปทำงาน เรียน หรือใช้ชีวิตในประเทศสหรัฐอเมริกา
หนึ่งใน “ข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญที่สุด” ที่คุณจะได้รับก็คือ หมายเลขประกันสังคม หรือที่เรียกกันว่า Social Security Number (SSN)

แม้จะดูเหมือนเป็นแค่ตัวเลข 9 หลัก แต่ SSN คือกุญแจสำคัญที่เปิดประตูสู่บริการจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น
– การทำงานอย่างถูกกฎหมาย
– การยื่นภาษี
– การขอสินเชื่อ
– หรือแม้กระทั่งการใช้บริการประกันสุขภาพของรัฐ

และในทางกลับกัน
หากหมายเลขนี้ตกไปอยู่ในมือผิดคน อาจนำไปสู่การโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล (Identity Theft) ที่ส่งผลกระทบหนักในระยะยาว

แล้วจริง ๆ SSN คืออะไร? ใช้อย่างไร? และควรระวังอะไร?
1. SSN คืออะไร?
Social Security Number (SSN) คือหมายเลขประจำตัว 9 หลักที่ออกโดย Social Security Administration (SSA) หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อ
– ติดตามรายได้ของผู้ทำงาน
– คำนวณสิทธิ์การรับสวัสดิการต่าง ๆ จากรัฐ เช่น เงินบำนาญ หรือ Medicare

ในปัจจุบัน SSN ยังถูกใช้เป็น “ตัวระบุตัวตนกลาง” ในหลากหลายบริบท ทั้งภาครัฐและเอกชน
(แหล่งอ้างอิง: SSA.gov – Social Security Bulletin)

2. SSN ใช้ทำอะไรบ้าง?
– ยื่นภาษีและทำงานอย่างถูกกฎหมายในสหรัฐฯ
– เปิดบัญชีธนาคาร หรือขอเครดิต
– ลงทะเบียนประกันสุขภาพรัฐ (Medicare / Medicaid)
– ยืนยันตัวตนในการเรียน สมัครงาน หรือรับบริการจากรัฐ
– ใช้ในการตรวจสอบเครดิต

3. SSN มีที่มาอย่างไร?
SSN เริ่มใช้ในปี 1936 โดย SSA เพื่อรองรับระบบบำนาญแห่งชาติ เลขประกอบด้วย 3 ส่วน คือ
3 หลักแรก (Area Number)
2 หลักถัดมา (Group Number)
4 หลักสุดท้าย (Serial Number)
ในอดีตตัวเลขเหล่านี้บ่งบอกพื้นที่และลำดับการออก แต่ปัจจุบันเป็นเพียงรหัสสุ่ม เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

4. ควรป้องกันหมายเลขนี้อย่างไร?
เนื่องจาก SSN เป็น “ข้อมูลลับระดับสูง” การเปิดเผยโดยไม่จำเป็นอาจเสี่ยงต่อการถูกใช้โดยมิจฉาชีพ คุณควรทำตามคำแนะนำดังนี้
– ไม่พกบัตร SSN ติดตัว
– หลีกเลี่ยงการให้หมายเลขผ่านเว็บไซต์หรืออีเมลที่ไม่น่าเชื่อถือ
– ตรวจสอบรายงานเครดิตอย่างสม่ำเสมอ
– ระมัดระวังการแชร์ข้อมูลกับนายจ้างชั่วคราวหรือองค์กรไม่เป็นทางการ